ตัวอย่าง สมรสเท่าเทียม 2

พรบ สมรสเท่าเทียม: กฎหมายแพ่งแก้ไขใหม่

มีข่าวใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงสังคมไทยเราไปอีกก้าวหนึ่ง นั่นก็คือกฎหมาย #สมรสเท่าเทียม ที่เพิ่งประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 นี่เอง! กฎหมายฉบับนี้เปิดโอกาสให้ “บุคคล” ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพศใด ก็สามารถสมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่จำกัดแค่ชาย-หญิงอีกต่อไป โอ้โห สุดยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ?

กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่?

ก่อนที่เราจะดีใจกันไปมากกว่านี้ มาดูกันก่อนว่ากฎหมายนี้จะเริ่มใช้ได้เมื่อไหร่? จริงๆ แล้วกฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 120 วัน นับตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งก็คือวันที่ 24 กันยายน 2567 นั่นแหละครับ ดังนั้น ตามหลักการนับระยะเวลาบังคับใช้กฎหมาย วันที่ 1 ของการนับคือวันที่ 24 กันยายน 2567 ดังนั้น วันที่ 21 มกราคม 2568 จะเป็นวันที่ครบ 120 วันพอดี หมายความว่าตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568 เป็นต้นไป เราก็สามารถไปจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายใหม่นี้ได้เลย เย้!

การเปลี่ยนแปลงสำคัญในกฎหมายสมรสใหม่

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดของกฎหมายฉบับนี้คือ การแก้ไขใจความหลักของการสมรสจาก “ชาย-หญิง” เป็น “บุคคล” ทำให้ทุกคนมีสิทธิในการสมรสเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนถ้อยคำที่บ่งชี้เพศ เช่น คำว่า “สามี-ภริยา” เป็น “คู่สมรส” เพื่อให้ครอบคลุมทุกเพศอย่างแท้จริง กฎหมายใหม่นี้ยังแก้ไขอายุขั้นต่ำสำหรับการหมั้นและการสมรสจากเดิม 17 ปีบริบูรณ์ เป็น 18 ปีบริบูรณ์ด้วยนะครับ เดี๋ยวเราจะมาดูกันในรายละเอียดอีกที

อายุขั้นต่ำสำหรับการหมั้นและการสมรสที่เปลี่ยนไป

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า กฎหมายใหม่นี้ได้ปรับอายุขั้นต่ำสำหรับการหมั้นและการสมรสจาก 17 ปีบริบูรณ์ เป็น 18 ปีบริบูรณ์ ซึ่งก็หมายความว่าใครที่อายุยังไม่ถึง 18 ปี จะไม่สามารถทำการหมั้นหรือสมรสได้ (เว้นแต่จะมีเหตุผลอันสมควรและศาลอนุญาต) การเปลี่ยนแปลงนี้สำคัญมาก เพราะมันสะท้อนให้เห็นว่ากฎหมายให้ความสำคัญกับพัฒนาการของเยาวชนมากขึ้น

ทำไมต้องเปลี่ยนอายุขั้นต่ำ?

เหตุผลที่ต้องเปลี่ยนอายุขั้นต่ำก็เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กที่กำหนดว่า “เด็ก” คือบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี การที่กฎหมายเดิมอนุญาตให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีจดทะเบียนสมรสได้ ก็อาจจะขัดกับหลักการของอนุสัญญาฉบับนี้ได้ การปรับแก้ครั้งนี้จึงเป็นไปเพื่อให้เด็กได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่ และมีโอกาสเติบโตอย่างสมวัยมากขึ้น

ข้อห้ามเกี่ยวกับการสมรสที่ยังคงเดิม

ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง แต่ก็มีบางสิ่งที่ยังคงเหมือนเดิมนะครับ นั่นก็คือข้อห้ามเกี่ยวกับการสมรส ซึ่งมีดังนี้ครับ

  • บุคคลวิกลจริต หรือบุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ: ไม่สามารถทำการสมรสได้

  • ห้ามสมรสกับญาติสืบสายโลหิตโดยตรง: ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย หรือลูกหลาน

  • ห้ามสมรสกับพี่น้องร่วมบิดามารดา หรือร่วมแต่บิดาหรือมารดา: ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องท้องเดียวกันหรือพี่น้องคนละแม่ก็ตาม

  • ห้ามผู้รับบุตรบุญธรรมสมรสกับบุตรบุญธรรม: เพราะกฎหมายมองว่าเป็นการขัดต่อความสัมพันธ์แบบครอบครัว

  • ห้ามสมรสซ้อน: ใครที่ยังมีคู่สมรสอยู่แล้ว จะไม่สามารถไปจดทะเบียนสมรสกับคนอื่นได้

ความยินยอมในการสมรสสำคัญไฉน

อีกหนึ่งข้อที่สำคัญมากก็คือ การสมรสจะต้องทำโดยที่บุคคลสองคน “ยินยอม” เป็นคู่สมรสกันอย่างเปิดเผยต่อนายทะเบียน ถ้าเกิดว่าไม่ได้ยินยอม หรือถูกบังคับให้แต่งงาน การสมรสครั้งนั้นก็จะเป็นโมฆะทันที

ผลของการสมรสที่เป็นโมฆะ

การสมรสที่เป็นโมฆะ คือการสมรสที่ถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นเลยในทางกฎหมาย ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ คู่สมรสจะไม่ได้รับสิทธิใดๆ ในทางกฎหมาย และทรัพย์สินที่ได้มาร่วมกันก็ต้องแบ่งคนละครึ่ง เว้นแต่ศาลจะพิจารณาจากเหตุผลอื่นๆ ด้วย

คนไทยสมรสกับชาวต่างชาติตามกฎหมายไทยได้แล้วนะ!

ข่าวดีสำหรับใครที่มีคู่รักเป็นชาวต่างชาติ กฎหมายสมรสเท่าเทียมฉบับใหม่นี้เปิดโอกาสให้คุณสามารถจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายไทยได้อย่างถูกต้องแล้วนะครับ ไม่ต้องไปจดทะเบียนที่ต่างประเทศให้ยุ่งยากอีกต่อไป สามารถไปจดได้ทั้งที่อำเภอหรือสำนักงานเขตในกรุงเทพฯ หรือที่สถานทูตไทยในต่างประเทศได้เลย

จัดการทรัพย์สินอย่างไรหลังแต่ง?

เรื่องทรัพย์สินหลังแต่งงานก็เป็นอีกเรื่องที่หลายคนกังวล กฎหมายใหม่นี้ยังคงใช้หลักการเดิมในการแบ่งทรัพย์สิน ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

สินส่วนตัวและสินสมรสคืออะไร?

  • สินส่วนตัว: คือทรัพย์สินที่คุณมีอยู่แล้วก่อนแต่งงาน หรือทรัพย์สินที่คุณได้มาระหว่างแต่งงานจากการรับมรดก หรือได้รับมาโดยเสน่หา เช่น ของขวัญที่คนอื่นให้

  • สินสมรส: คือทรัพย์สินที่คุณได้มาระหว่างแต่งงาน หรือทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างแต่งงานโดยพินัยกรรมหรือการให้เป็นหนังสือระบุว่าเป็นสินสมรส รวมถึงดอกผลของสินส่วนตัว

สินส่วนตัวจะสามารถจัดการได้โดยเจ้าของคนเดียว แต่สินสมรสจะต้องจัดการร่วมกัน หากต้องการขายหรือทำอะไรกับสินสมรส ต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสอีกฝ่ายก่อนนะครับ

สิทธิในการรับบุตรบุญธรรมและการรับมรดก

คู่สมรสตามกฎหมายใหม่นี้ ก็มีสิทธิในการรับบุตรบุญธรรมร่วมกันได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงเพศอีกต่อไป และเมื่อคู่สมรสฝ่ายใดเสียชีวิต อีกฝ่ายก็จะมีสิทธิในการรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรมตามกฎหมายเช่นกัน

ฟ้องหย่าได้ไม่จำกัดเพศ ค่าทดแทนจากชู้ก็เช่นกัน

ถ้าเกิดว่าชีวิตคู่ไม่ราบรื่น เกิดปัญหาจนต้องหย่าร้าง กฎหมายใหม่นี้ก็เปิดโอกาสให้ฟ้องหย่าได้ หากคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปมีชู้ หรือไปอุปการะเลี้ยงดูผู้อื่นฉันคู่สมรส และที่สำคัญคือ คู่สมรสที่ถูกกระทำสามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนจากคู่สมรสที่นอกใจและจากชู้ได้โดยไม่จำกัดเรื่องเพศอีกต่อไป ไม่ว่าชู้จะเป็นเพศไหนก็ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน

สมรสเท่าเทียม สิทธิประโยชน์อื่นๆ ตามมาอีกเพียบ

การจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายสมรสเท่าเทียม ไม่ได้มีผลแค่ในเรื่องความสัมพันธ์ของคนสองคนเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่คู่สมรสจะได้รับตามกฎหมายต่างๆ อีกด้วย เช่น

ตัวอย่างสิทธิประโยชน์ของคู่สมรสตามกฎหมายต่างๆ

  • สิทธิในการใช้นามสกุลของคู่สมรส: สามารถเลือกใช้นามสกุลของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือใช้นามสกุลเดิมของตนเองได้ หรือจะใช้นามสกุลของอีกฝ่ายเป็นชื่อกลางก็ได้

  • สิทธิในการให้ความยินยอมรักษาพยาบาล: ในกรณีที่คู่สมรสไม่สามารถให้ความยินยอมได้ คู่สมรสอีกฝ่ายก็สามารถให้ความยินยอมในการรักษาพยาบาลได้

  • สิทธิในการได้รับสวัสดิการและบำนาญ: เช่น สิทธิในการได้รับเงินทดแทนกรณีเสียชีวิตของคู่สมรส หรือสิทธิในการได้รับบำนาญชราภาพ

  • สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี: เช่น สิทธิในการลดหย่อนภาษี หรือสิทธิในการได้รับการยกเว้นภาษีมรดก

กฎหมายอื่นๆ ต้องปรับแก้ตามไปด้วยไหม?

อย่างที่รู้กันว่ากฎหมายต่างๆ ส่วนใหญ่ในบ้านเรามักจะระบุสิทธิประโยชน์สำหรับ “สามี-ภริยา” ดังนั้นเมื่อมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่ใช้คำว่า “คู่สมรส” แทน หน่วยงานรัฐที่ดูแลกฎหมายเหล่านั้น ก็จะต้องกลับไปทบทวนและปรับแก้กฎหมายให้สอดคล้องกับกฎหมายสมรสเท่าเทียมนี้ด้วย เพื่อให้คู่สมรสทุกเพศได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน

สรุป

เป็นยังไงกันบ้างครับ กับข้อมูลกฎหมายสมรสเท่าเทียมฉบับใหม่ หวังว่าทุกคนจะเข้าใจและเห็นถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้กันมากขึ้นนะครับ กฎหมายฉบับนี้ไม่เพียงแต่เป็นการรับรองสิทธิในการสมรสของทุกคน แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าสังคมไทยเราเปิดกว้างและยอมรับความหลากหลายมากขึ้นด้วย ผมเชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้สังคมเราก้าวหน้าและมีความเท่าเทียมกันมากยิ่งขึ้นครับ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

  1. กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่?

    • มีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 มกราคม 2568

  2. ใครบ้างที่สามารถจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายใหม่ได้?

    • บุคคลทุกเพศ สามารถจดทะเบียนสมรสได้

  3. อายุขั้นต่ำสำหรับการจดทะเบียนสมรสคือเท่าไหร่?

    • 18 ปีบริบูรณ์

  4. ถ้าจดทะเบียนสมรสแล้วมีสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?

    • มีสิทธิประโยชน์มากมาย ทั้งในเรื่องทรัพย์สิน การรับมรดก สวัสดิการต่างๆ และสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี

  5. ถ้าคู่สมรสมีชู้จะทำอย่างไรได้บ้าง?

    • สามารถฟ้องหย่าและเรียกค่าทดแทนจากคู่สมรสที่นอกใจและจากชู้ได้ โดยไม่จำกัดเพศ

อ้างอิงที่มาจาก

https://www.ilaw.or.th/articles/43563

*** ข้อมูลในบทความนี้อาจไม่เป็นปัจจุบัน หรือมีความคลาดเคลื่อนได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมกับแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อความถูกต้อง***

ทำไมต้องเลือก Firstchoicetranslation เพื่อบริการแปลทะเบียนสมรสที่ถูกต้อง?

การแต่งงานเป็นช่วงเวลาที่สำคัญและน่าจดจำในชีวิต แต่สำหรับคู่สมรสที่มาจากต่างวัฒนธรรมหรือมีแผนที่จะใช้ชีวิตในต่างประเทศ การแปลเอกสารทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องและแม่นยำกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเอกสารนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการยื่นขอวีซ่า การเปลี่ยนชื่อ การขอสิทธิประโยชน์ต่างๆ หรือการทำธุรกรรมทางการเงิน

แต่การแปลเอกสารราชการไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ เพราะต้องใช้ความเชี่ยวชาญทั้งด้านภาษาและด้านกฎหมาย เพื่อให้มั่นใจว่าการแปลถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่หน่วยงานราชการกำหนด Firstchoicetranslation เข้าใจถึงความสำคัญของเรื่องนี้ดี เราจึงพร้อมให้บริการแปลทะเบียนสมรสที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าเอกสารของคุณจะไม่เป็นปัญหาในการดำเนินงานต่างๆ อย่างแน่นอน

Firstchoicetranslation: ผู้เชี่ยวชาญด้านการแปลทะเบียนสมรสที่คุณวางใจได้

Firstchoicetranslation ไม่ได้เป็นแค่บริษัทรับแปลเอกสารทั่วไป แต่เราคือทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการแปลเอกสารราชการโดยเฉพาะ เรามีจุดแข็งที่ทำให้เราแตกต่างจากบริษัทอื่นๆ ดังนี้

  • นักแปลผู้เชี่ยวชาญ: เรามีทีมนักแปลที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการแปลเอกสารราชการทุกประเภท รวมถึงทะเบียนสมรส นักแปลของเราทุกคนผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวด และมีความรู้ความเข้าใจในศัพท์ทางกฎหมายและข้อกำหนดต่างๆ ของหน่วยงานราชการเป็นอย่างดี

  • ความแม่นยำและความถูกต้อง: เราให้ความสำคัญกับความแม่นยำในการแปลทุกขั้นตอน เพราะเราเข้าใจว่าเอกสารทะเบียนสมรสเป็นเอกสารสำคัญที่ต้องมีความถูกต้องและครบถ้วน หากเกิดความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อาจส่งผลกระทบต่อการทำธุรกรรมต่างๆ ได้

  • การรับรองเอกสาร: เรามีบริการรับรองการแปลเอกสารกับสถานทูตและกงสุลต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเอกสารของคุณได้รับการยอมรับในต่างประเทศ โดยไม่ต้องเสียเวลาและยุ่งยากในการดำเนินการเอง

  • ความรวดเร็วและตรงต่อเวลา: เราเข้าใจดีว่าเวลาเป็นสิ่งสำคัญ เราจึงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบงานแปลให้ตรงตามกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้ โดยไม่ลดทอนคุณภาพของงาน

  • ความใส่ใจและบริการที่เป็นกันเอง: เราพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลลูกค้าทุกท่านอย่างใกล้ชิด เราเข้าใจว่าลูกค้าแต่ละท่านมีความต้องการที่แตกต่างกัน เราจึงพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนบริการให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย

ทำไมต้องเลือก Firstchoicetranslation?

การเลือกบริษัทแปลเอกสารที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการแปลเอกสารที่ไม่ถูกต้องอาจนำมาซึ่งปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการถูกปฏิเสธวีซ่า การไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ หรือการเกิดความล่าช้าในการทำธุรกรรมต่างๆ ดังนั้น การเลือกใช้บริการจาก Firstchoicetranslation คุณจะได้รับประโยชน์ดังนี้

ความมั่นใจในเอกสารที่ถูกต้อง

เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบงานแปลที่มีคุณภาพสูงสุด เราใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าเอกสารของคุณถูกต้อง แม่นยำ และสามารถนำไปใช้ได้อย่างราบรื่น

ประหยัดเวลาและความยุ่งยาก

เรามีบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การแปล การรับรอง ไปจนถึงการส่งมอบเอกสาร ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและไม่ต้องเสียเวลาไปกับการดำเนินการต่างๆ เอง

ความสะดวกและสบายใจ

เราเข้าใจว่าการแปลเอกสารอาจเป็นเรื่องที่น่ากังวล เราจึงพร้อมที่จะดูแลและให้คำปรึกษาแก่คุณในทุกขั้นตอน เพื่อให้คุณรู้สึกสบายใจและมั่นใจในการใช้บริการของเรา

ราคาที่สมเหตุสมผล

เราให้บริการแปลเอกสารที่มีคุณภาพในราคาที่สมเหตุสมผล เราเชื่อว่าทุกคนควรจะเข้าถึงบริการแปลเอกสารที่มีคุณภาพได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

ใครบ้างที่ควรใช้บริการแปลทะเบียนสมรส?

บริการแปลทะเบียนสมรสของเราเหมาะสำหรับคู่สมรสที่

  • แต่งงานกับชาวต่างชาติ

  • มีแผนที่จะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ

  • ต้องการยื่นขอวีซ่า

  • ต้องการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลตามกฎหมาย

  • ต้องการใช้เอกสารทะเบียนสมรสในการทำธุรกรรมต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ

ขั้นตอนการใช้บริการแปลทะเบียนสมรสกับ Firstchoicetranslation

ขั้นตอนการใช้บริการแปลทะเบียนสมรสกับเรานั้นง่ายมากๆ เพียงแค่

  1. ติดต่อเรา: สามารถติดต่อเราผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ โทรศัพท์ หรืออีเมล

  2. ส่งเอกสาร: ส่งสำเนาทะเบียนสมรสของคุณมาให้เราประเมินราคา

  3. ยืนยันการแปล: หลังจากตกลงราคาและระยะเวลาแล้ว เราจะเริ่มดำเนินการแปลทันที

  4. รับเอกสาร: เมื่อการแปลเสร็จเรียบร้อย เราจะส่งมอบเอกสารให้คุณตามช่องทางที่คุณเลือก

สรุป

การเลือกใช้บริการแปลทะเบียนสมรสจาก Firstchoicetranslation คือการเลือกความถูกต้อง แม่นยำ และความสบายใจ เราพร้อมที่จะเป็นผู้ช่วยให้การดำเนินงานต่างๆ ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ บริการที่เป็นกันเอง และราคาที่สมเหตุสมผล ให้ Firstchoicetranslation ดูแลเอกสารสำคัญของคุณ แล้วคุณจะพบว่าการแปลเอกสารไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป!

ติดต่อเราวันนี้ เพื่อรับใบเสนอราคาฟรี!