10 สำนวนภาษาอังกฤษยอดฮิตที่ใช้พูดกันในการทำงาน

10 สำนวนภาษาอังกฤษยอดฮิตที่ใช้พูดกันในการทำงาน

ในยุคปัจจุบันนี้ต้องยอมรับเลยว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเราทุกคนมาก และเป็นภาษาที่มีความสำคัญ ใช้ในแวดวงต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชีวิตการทำงาน ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่จำเป็นต้องใช้ ตั้งแต่การเขียนเรซูเม่ สัมภาษณ์งาน และตอนลงมือปฏิบัติงานจริง หากเรามีความสามารถด้านภาษาอังกฤษก็เท่ากับว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง เป็นความสามารถที่เหมือนเป็นใบเบิกทางให้คุณได้เข้าไปทำงานในบริษัทในฝัน หรือได้เข้าไปในบริษัทระดับโลก

แต่บางคนก็จะสัมผัสได้ว่า เรื่องทฤษฎีหรือหลักไวยากรณ์ของเรามีความแน่นเป๊ะมากเลย สอบวัดระดับภาษาอังกฤษก็ได้คะแนนผ่านเกณฑ์มาตรฐาน รู้หลักการทางภาษาอังกฤษดีมาก แต่เวลาใช้งานจริงกลับรู้สึกไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่ หรือบางคนได้มีโอกาสเข้าไปทำงานในบริษัทของชาวต่างชาติด้วยความสามารถบางอย่าง แต่ไม่ค่อยเชี่ยวชาญเรื่องภาษาเท่าไหร่ ก็อาจทำให้เกิดปัญหาการพูดคุยหรือสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นชาวต่างชาติได้

วันนี้ ศูนย์แปลเอกสาร เฟิสท์ชอยซ์ทรานสเลชัน เลยขอมาแนะนำ เคล็ดลับการพูดภาษาอังกฤษกับเพื่อนร่วมงานอย่างไรให้คล่องมากขึ้นด้วยสำนวนภาษาอังกฤษ 10 สำนวนยอดฮิตที่ใช้บ่อยในที่ทำงาน พร้อมความหมาย และตัวอย่างวิธีการใช้ ขอบอกเลยว่า อ่านจบแล้ว สามารถกลับไปพูดภาษาอังกฤษในที่ทำงานได้คล่องมากขึ้นเลยค่ะ ว่าแต่จะมีเคล็ดลับและสำนวนอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย

ภาษาอังกฤษ สำคัญกับการทำงานอย่างไร

สำนวนภาษาอังกฤษ ยอดฮิตในที่ทำงาน

ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่า ภาษาอังกฤษ สำคัญกับการทำงานอย่างไร เราจำเป็นต้องมีความสามารถในด้านภาษาอังกฤษไหม สำหรับข้อดีของการมีทักษะภาษาอังกฤษนั้น จะช่วยให้เราได้เปรียบกว่าคนอื่นหลายด้าน ทั้งการศึกษาหาข้อมูล ความรู้ ข่าวสาร เพิ่มโอกาสในการทำงาน การศึกษาต่อต่างประเทศด้วยค่ะ

เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ

การรู้จักใช้ภาษาอังกฤษเปิดโอกาสให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลจากทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ช่วยให้เราติดตามความเคลื่อนไหวของข่าวสารและความรู้ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทุกวันค่ะ

เพิ่มทักษะการสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า และพันธมิตรธุรกิจ

ความรู้ภาษาอังกฤษมีส่วนช่วยสำคัญในการพัฒนาทักษะทางวิชาชีพ ช่วยในการทำงานสาขาต่างๆ โดยเฉพาะด้านการสื่อสารภายในองค์กรค่ะ เช่น การพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานต่างชาติ การติดต่อสื่อสารกับลูกค้า และการเจรจากับพันธมิตรธุรกิจที่มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากล

เปิดโอกาสในการทำงานต่างประเทศ หรือบริษัทต่างชาติ

หากเราสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและเชี่ยวชาญ จะเพิ่มโอกาสในการทำงานต่างประเทศ หรือการทำงานกับบริษัทต่างชาติ เพราะสามารถติดต่อสื่อสารกับสมาชิกในองค์กร เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน และลูกค้าของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าใครอยากทำงานในบริษัทเหล่านี้ ทักษะสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือทักษะภาษาอังกฤษค่ะ

ปัจจุบันนี้ ต้องขอบอกเลยว่า  ต่อให้ทำงานในองค์กรที่เป็นของคนไทยก็จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษได้นะคะ เพราะบางครั้งเราก็ใช้ภาษาอังกฤษในการทำเอกสารติดต่อกับบริษัทอื่น ใช้เพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมค่ะ และการเชี่ยวชาญเรื่องภาษาอังกฤษก็ช่วยเปิดโอกาสให้ธุรกิจเราก้าวไกลไปยังต่างประเทศอีกด้วย

ส่วนบริษัทต่างชาติก็ยิ่งจำเป็นต้องรู้ภาษาอังกฤษมากขึ้นไปอีกค่ะ เพราะที่แน่ๆ เราต้องสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานที่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เพื่อสื่อสารเรื่องงานได้อย่างถูกต้อง ไม่สื่อสารผิดพลาดไป เราจำเป็นต้องรู้ภาษาอังกฤษ ทั้งในเรื่องการอ่าน การเขียน และเรื่องการพูดค่ะ

ทำอย่างไรถึงพูดภาษาอังกฤษ กับเพื่อนต่างชาติที่ทำงานได้คล่อง

ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า ถ้าเราอยากพูดคุยกับเพื่อนชาวต่างชาติที่ทำงาน หรือสื่อสารภาษาอังกฤษในการทำงานได้อย่างคล่องแคล่วและชำนาญมากขึ้น จะต้องฝึกฝนอย่างไรบ้าง วันนี้ ศูนย์แปลเอกสาร เฟิสท์ชอยซ์ทรานสเลชัน ขอมาแนะนำเทคนิคให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้คล่องมากขึ้น จะมีเทคนิคอะไรบ้าง ตามมาจดกันได้เลยค่ะ

ฟังรายการหรือดูซีรีส์ภาษาอังกฤษบ่อยๆ

หากคุณรู้สึกว่าอยากจะมีสนามไว้ทดลองฝึกฝนทักษะที่สามารถฝึกได้บ่อย ฝึกได้ทุกที่ ทุกเวลา และไม่อยากให้เป็นการฝึกที่น่าเบื่อเกินไป เราขอแนะนำวิธีการฟังรายการภาษาอังกฤษ หรือการดูซีรีส์ภาษาอังกฤษในเวลาว่างค่ะ ยิ่งสมัยนี้มี Podcast ที่จะเปิดฟังตอนไหนก็ได้อีกด้วย 

การฟังบ่อยๆ จะช่วยให้เราซึมซับการใช้ภาษา ทำให้เราจำได้เองอัตโนมัติ พอเราได้ยินบ่อยๆ จนมีคลังคำที่มากพอในสมองของเราก็ทำให้เราพูดหรือสื่อสารออกมาได้อย่างคล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นค่ะ

จำคำศัพท์ภาษาอังกฤษให้ได้เยอะที่สุด

สำนวนภาษาอังกฤษ ที่ถูกใช้บ่อยๆ

ปัญหาหนึ่งที่ทำให้เราพูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง หรือไม่สามารถโต้ตอบได้แบบเร็วฉับไวก็เพราะว่า ไม่รู้จะพูดออกมาอย่างไรนั่นเอง รู้ว่าจะต้องตอบว่าอย่างไรเป็นภาษาไทย แต่พอจะให้พูดเป็นภาษาอังกฤษกลับนึกไม่ออกว่า จะต้องใช้คำศัพท์อะไร เรียงรูปประโยคแบบไหนถึงจะมีความหมายที่ถูกต้อง ดังนั้น เราควรที่จะศึกษาคำศัพท์ภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ให้เรามีคลังคำภาษาอังกฤษอยู่ในหัวเราให้ได้มากที่สุด เราอาจจะใช้วิธีอ่านหนังสือภาษาอังกฤษทุกวัน อ่านบทความภาษาอังกฤษตามเว็บไซต์ รวมถึงการจดคำศัพท์ที่แปลกใหม่ และหมั่นเอามาอ่านทบทวนทุกวันค่ะ พอเรามีคลังคำศัพท์เพิ่มขึ้น ก็จะช่วยให้เราสื่อสารออกมาได้ง่ายขึ้น อาจจะยังไม่ถูกไวยากรณ์ แต่อย่างน้อยคำศัพท์ก็สามารถสื่อสารความหมายออกมาได้

ฝึกพูดกับคนต่างชาติทุกวัน

ขอสุดท้าย ไม่มีตัวช่วยไหนที่ดีไปกว่าการได้พูดคุยกับชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าของภาษาแล้วค่ะ หากคุณมีเพื่อนที่เป็นชาวต่างชาติ หรือเพื่อนสนิทที่ทำงานที่เป็นคนต่างชาติให้คุณหมั่นพูดคุยกับเขาบ่อยๆ ค่ะ อย่าอายที่จะพูดผิด ให้มั่นใจเข้าไว้ค่ะ ถ้าหากเราพูดผิดขึ้นมาจริงๆ เพื่อนของเราก็จะช่วยแก้ไขสิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง เราก็จะได้จดจำการพูดภาษาอังกฤษแบบถูกต้องไปใช้ และการคุยบ่อยๆ จะเป็นการฝึกให้เราได้ใช้ภาษา ทำให้เราเกิดความชำนาญและพูดได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้น

10 สำนวนภาษาอังกฤษยอดฮิตที่ใช้พูดกันในการทำงาน

ในขณะที่หลักสูตรภาษาอังกฤษส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ไวยากรณ์และคำศัพท์พื้นฐาน แต่มีเพียงไม่กี่คนที่พูดถึงศัพท์แสงที่สามารถได้ยินหรือสามารถใช้ในที่ทำงาน เพื่อให้ทุกคนสามารถสื่อสารกับคนต่างชาติด้วยภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้น วันนี้เราขอนำเสนอสำนวนภาษาอังกฤษที่พบบ่อยที่สุด 10 สำนวน มาฝากกันค่ะ

สำนวนภาษาอังกฤษ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

1. It’s not rocket science – ไม่ได้ยากอะไรเลย

สำนวนนี้มีความหมายได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องยาก สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ ทำได้ง่ายๆ ใช้เพื่อบอกให้อีกฝ่ายไม่ต้องกังวลหรือเครียดกับงานที่กำลังทำ เพราะความจริงแล้วงานนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด

ตัวอย่าง

  • Look, all you need to do is reformat the hard drive on your computer. It isn’t rocket science!
    ดูซิ สิ่งที่คุณต้องทำคือฟอร์แมตฮาร์ดไดรฟ์บนคอมพิวเตอร์ของคุณ มันไม่ได้ยากอะไรเลย
  • Don’t worry, it’s not rocket science. You can do it.
    ไม่ต้องกังวล มันไม่ยากหรอก คุณทำได้
  • This project is not rocket science. We can finish it in a week.
    โปรเจ็กต์นี้ไม่ได้ยากอะไร เราทำได้เสร็จภายในสัปดาห์เดียว

2. Get the ball rolling – เริ่มต้นทำบางสิ่งได้แล้ว

สำนวนนี้หมายถึงการเริ่มต้นทำบางสิ่งบางอย่าง ใช้เพื่อพูดในเชิงกระตุ้นหรือชักชวนให้เริ่มทำสิ่งต่างๆ ได้แล้ว โดยเฉพาะงานที่ล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น หรือโครงการที่ต้องทำให้เสร็จในเวลาที่กำหนด

ตัวอย่าง

  • It’s time to get the ball rolling on the 2021 forecast.
    ได้เวลาเริ่มต้นทำบางสิ่งตามการคาดการณ์ในปี 2021
  • I’ve been working on this proposal for a while. I think it’s time to get the ball rolling.
    ฉันทำงานเกี่ยวกับข้อเสนอนี้มาสักพักแล้ว ฉันคิดว่าถึงเวลาที่ต้องเริ่มดำเนินการแล้ว
  • Let’s get the ball rolling on this project. We need to finish it by next month.
    มาเริ่มทำโปรเจ็กต์นี้กันเถอะ เราต้องเสร็จภายในเดือนหน้

3. Up to speed – รู้และเข้าใจเรื่องนั้นเป็นอย่างดี

สำนวนนี้หมายถึง มีความรู้ในข้อมูลนั้นอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ใช้เพื่อบอกว่าเราเข้าใจเรื่องนี้ดีแล้ว มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างดี หรือใช้เป็นสำนวนเมื่อต้องการอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจในเรื่องต่างๆ อย่างละเอียดและชัดเจน

ตัวอย่าง

  • I’ve been working on this project for a few months now, so I’m pretty much up to speed.
    ฉันทำงานเกี่ยวกับโปรเจ็กต์นี้มาหลายเดือนแล้ว ดังนั้นฉันเข้าใจดีแล้ว
  • I’m still not up to speed on the new project. Can you give me a quick rundown?
    ฉันยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ใหม่เลย คุณช่วยสรุปให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม
  • We have a new team member starting this week. Can everyone help him get up to speed on our accounts?
    ตั้งแต่สัปดาห์นี้เรามีสมาชิกใหม่ในทีม รบกวนทุกคนช่วยให้เขาเข้าใจถึงข้อมูลต่างๆของเราได้หรือไม่

4. On the back burner – เดี๋ยวค่อยทำทีหลัง

สำนวนนี้มีความหมายว่าเอาไว้จัดการภายหลัง หรือเดี๋ยวค่อยทำทีหลัง ใช้เพื่อบอกว่างานหรือโครงการนั้นๆ ไม่ได้เร่งด่วน หรือไม่ได้สำคัญมากขนาดที่จะต้องทำทันที ให้เลื่อนออกไปเพื่อทำงานอื่นๆ ที่สำคัญกว่าก่อน

ตัวอย่าง

  • Put that report on the back burner and focus on new business.
    เอาไว้เดี๋ยวค่อยจัดการกับรายงานทีหลัง ตอนนี้มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจใหม่ก่อน
  • The doctor put the patient’s treatment on the back burner because of a more urgent case.
    หมอเลื่อนการรักษาผู้ป่วยออกไปก่อนเพราะมีเคสที่เร่งด่วนกว่า
  • I’ll put my vacation plans on the back burner until I finish this project.
    ฉันจะเลื่อนแผนไปเที่ยวออกไปก่อนจนกว่าจะเสร็จโปรเจกต์นี้

5. Back to the drawing board – กลับไปเริ่มต้นใหม่

สำนวนนี้มีความหมายว่าวางแผนกันใหม่ หรือเริ่มต้นใหม่อีกรอบ ใช้เพื่อบอกว่าต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด เพราะแผนหรือแนวทางเดิมๆ ไม่ได้ผล

ตัวอย่าง

  • The client rejected our original concept, so it’s back to the drawing board.
    ลูกค้าปฏิเสธแนวคิดเดิมของเรา เอาละ ดังนั้นเรากลับไปเริ่มคิดกันใหม่อีกรอบ
  • This product design is not working. We need to go back to the drawing board.
    การออกแบบผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้ผล เราต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่
  • The scientist went back to the drawing board after her experiment failed.
    นักวิทยาศาสตร์ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ หลังจากการทดลองของเธอล้มเหลว

6. For the long haul – ระยะเวลานาน

สำนวนนี้ใช้เพื่อบอกว่าบางสิ่งบางอย่างนั้นต้องใช้เวลานาน ใช้เพื่อบอกว่างานหรือโครงการนั้นๆ จะต้องใช้เวลาในการดำเนินการนานมากกว่าจะเสร็จสิ้น

ตัวอย่าง

  • The new business pitch will be hard work, but we’re in it for the long haul.
    การลงสนามทำธุรกิจใหม่เป็นงานยาก แต่ยังไงเราก็ต้องอยู่กับมันไปอีกนาน
  • This project is for the long haul. It will take several years to complete.
    โปรเจ็กต์นี้ต้องใช้เวลานาน กว่าจะเสร็จก็คงหลายปี
  • If you want to be successful in this business, you need to be prepared for the long haul.
    หากอยากประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ คุณต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการทำงานในระยะยาว

7. Burn the midnight oil – ทำงานจนดึก ไม่หลับไม่นอน

สำนวนนี้ค่อนข้างนิยมใช้ทั้งในการทำงานและการเรียน มีความหมายได้ว่าทำงานเกินเวลา ไม่หลับไม่นอน ใช้เพื่อบอกว่าทำงานหนักมากๆ หรือทำงานดึกดื่นเพื่อให้งานเสร็จทันตามกำหนด

ตัวอย่าง

  • Our manager is burning the midnight oil to meet every deadline.
    ผู้จัดการของเรากำลังปั่นงานอย่างเร่งรีบไม่หลับไม่นอนเพื่อให้เป็นไปตามกำหนดเวลาทุกประการ
  • I have to burn the midnight oil to finish this report.
    ฉันต้องทำงานจนดึกเพื่อทำรายงานให้เสร็จ
  • We’re all burning the midnight oil to get this project done.
    พวกเราต้องทำงานกันแบบไม่หลับไม่นอน เพื่อทำโปรเจ็กต์นี้ให้เสร็จ

8. Change of pace – เปลี่ยนจังหวะ รูปแบบ หรือวิธีการทำงาน

สำนวนนี้มีความหมายถึงการเปลี่ยนแปลงของจังหวะ ทำสิ่งที่แตกต่างจากกิจวัตรปกติ ใช้เพื่อบอกว่าต้องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน เพื่อไม่ให้เกิดความเบื่อหน่ายหรือซ้ำซากจำเจ

ตัวอย่าง

  • Company outings are a nice change of pace from our regular work week.
    ออกไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ทำการของบริษัทเป็นทำสิ่งที่แตกต่างจากกิจวัตรปกติที่ดีจากสัปดาห์การทำงานปกติของเรา
  • Let’s try something new. We need a change of pace.
    เรามาลองอะไรใหม่ๆ กันเถอะ พวกเราควรต้องเปลี่ยนรูปแบบการทำงานแล้วนะ
  • I need a change of pace. I’ve been working on the same project for too long.
    ฉันต้องเปลี่ยนแนวการทำงานแล้ว ฉันทำงานในโปรเจ็กต์เดิมๆ มานานมากแล้วนะ

9. Think outside the box – คิดนอกกรอบ

สำนวนนี้เป็นสำนวนที่เราได้ยินอยู่บ่อยๆ นิยมใช้ในการทำงาน การเรียน หรืออะไรก็ตามเกือบแทบจะทุกอย่าง มีความหมายว่าคิดนอกกรอบ ใช้เพื่อบอกว่าเราควรอย่างสร้างสรรค์ เพื่อมองหาแนวทางใหม่ๆ หรือคิดนอกกรอบ เพื่อปรับวิธีการทำงาน

ตัวอย่าง

  • Stop looking at past examples and think outside the box.
    หยุดมองดูตัวอย่างที่ผ่านมาและคิดนอกกรอบ
  • We need to think outside the box to solve this problem.
    เราจำเป็นต้องคิดนอกกรอบเพื่อที่จะแก้ปัญหานี้
  • Let’s think outside the box and come up with a new marketing campaign.
    ลองคิดนอกกรอบแล้วมาสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดใหม่กันเถอะ

10. On the same page – เข้าใจตรงกัน

สำนวนนี้มีความหมายว่าคิดเหมือนกัน หรือเข้าใจตรงกัน ใช้เพื่อบอกว่าต่างฝ่ายต่างเข้าใจความหมายในสิ่งที่พูดคุยกันอยู่ตรงกันจริงๆ และสามารถใช้ถามเพื่อให้แน่ใจว่า ทั้งสองฝ่ายนั้นเข้าใจตรงกัน ก่อนจะเริ่มทำอะไรต่อไป

ตัวอย่าง

  • Are we on the same page?
    เราเข้าใจตรงกันไหม?
  • Let’s all communicate constantly so we are on the same page.
    ขอให้ทุกคนสื่อสารกันอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เพื่อให้เข้าใจตรงกัน
  • Let’s make sure we’re all on the same page before we move forward.
    เรามาทำให้แน่ใจว่าเราเข้าใจตรงกันก่อนที่จะดำเนินการต่อไป

นี่คือตัวอย่างสำนวนภาษาอังกฤษที่มักใช้พูดบ่อยๆ ในที่ทำงานค่ะ หากไม่รู้ว่าจะสื่อสารหรือพูดคุยอะไรดีกับเพื่อนต่างชาติ ให้ลองใช้สำนวนนี้เป็นไม้เด็ดพิชิตการสื่อสารที่โดนใจได้เลยค่ะ

แต่ถ้าหากงานของคุณ ไม่ใช่แค่เน้นเรื่องการพูดคุยเท่านั้น แต่ยังต้องทำเอกสารสำคัญขององค์กร ที่จำเป็นต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษให้มีความถูกต้อง สละสลวย ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ ลองใช้บริการของ ศูนย์แปลเอกสาร เฟิสท์ชอยซ์ทรานสเลชัน ได้เลยค่ะ

ศูนย์แปลภาษาเอกสารคุณภาพดี แปลทั้งเอกสารทางราชการ และยังมีบริการแปลภาษาได้มากถึง 30 ภาษาเลยค่ะ มีประสบการณ์การแปลมามากกว่า 13 ปี เคยแปลเอกสารให้กับองค์กรชั้นนำมาแล้วหลายแห่ง และที่สำคัญมีบริการรับรองเอกสารด้วย มาที่นี่ที่เดียว ได้ครบทั้งงานแปล และรับรองเอกสารเลยค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • ศูนย์แปลเอกสารเฟิสท์ชอยซ์ทรานสเลชัน

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอรับบริการกับศูนย์แปลเอกสาร เฟิสท์ชอยซ์ทรานสเลชันได้แล้ววันนี้ที่ LINE OFFICIAL ACCOUNT: https://page.line.me/fc2009?openQrModal=true หรือ

สำนักงานใหญ่ สะพานควาย จตุจักร
อาคารภูมิเดชา ชั้น 4 ซอยประดิพัทธ์ 10 ถ.ประดิพัทธ์ เเขวง/เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
โทร. 061-1769965 , 065-3958392
https://goo.gl/maps/zUrGGGGWSrtMvjDa7

สาขาภูเก็ต ถ.ปฏิพัทธ์ เมืองภูเก็ต
เลขที่ 7/4 ถ.ปฏิพัทธ์ ต.ตลาตเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต 83000
โทร. 086-3669255
https://goo.gl/maps/s21JAisaAnRPvxtHA